ปา ร์ ติ ซาน พบ แมน ยู
โดย บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ ซื้อ หุ้น GUNKUL ให้ราคาเป้าหมาย 5 บาท/หุ้น สำหรับการลงทุนระยะยาว โดยมีปัจจัยหนุนคือ 1.) กำไรปี 61-62 เติบโตสูง 2.) โรงไฟฟ้าพลังลมในไทยจะสร้างกำไรให้เติบโตต่อเนื่องและมั่นคงในระยะยาว 3.) มีโอกาสชนะประมูลโครงการเคเบิ้ลใต้ทะเล และ/หรือวางสายไฟฟ้าลงใต้ดิน ซึ่งคาดจะเปิดประมูลในไตรมาส 4/61-ไตรมาส 1/62 และ 4.) ราคาหุ้นยังมี upside gain ถึง 62% จากราคาเป้าหมาย 5 บ. (SOTP) เทียบเท่าปี 2562 ซึ่ง P/B อยู่ที่ 3.5 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 4 ปีที่ 4.5 เท่า
โดย บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ ซื้อ หุ้น GUNKUL ให้ราคาเป้าหมาย 5 บาท/หุ้น สำหรับการลงทุนระยะยาว โดยมีปัจจัยหนุนคือ 1.) กำไรปี 61-62 เติบโตสูง 2.) โรงไฟฟ้าพลังลมในไทยจะสร้างกำไรให้เติบโตต่อเนื่องและมั่นคงในระยะยาว 3.) มีโอกาสชนะประมูลโครงการเคเบิ้ลใต้ทะเล และ/หรือวางสายไฟฟ้าลงใต้ดิน ซึ่งคาดจะเปิดประมูลในไตรมาส 4/61-ไตรมาส 1/62 และ 4.) ราคาหุ้นยังมี upside gain ถึง 62% จากราคาเป้าหมาย 5 บ. (SOTP) เทียบเท่าปี 2562 ซึ่ง P/B อยู่ที่ 3.5 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 4 ปีที่ 4.5 เท่า
โดย บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ ซื้อ หุ้น GUNKUL ให้ราคาเป้าหมาย 5 บาท/หุ้น สำหรับการลงทุนระยะยาว โดยมีปัจจัยหนุนคือ 1.) กำไรปี 61-62 เติบโตสูง 2.) โรงไฟฟ้าพลังลมในไทยจะสร้างกำไรให้เติบโตต่อเนื่องและมั่นคงในระยะยาว 3.) มีโอกาสชนะประมูลโครงการเคเบิ้ลใต้ทะเล และ/หรือวางสายไฟฟ้าลงใต้ดิน ซึ่งคาดจะเปิดประมูลในไตรมาส 4/61-ไตรมาส 1/62 และ 4.) ราคาหุ้นยังมี upside gain ถึง 62% จากราคาเป้าหมาย 5 บ. (SOTP) เทียบเท่าปี 2562 ซึ่ง P/B อยู่ที่ 3.5 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 4 ปีที่ 4.5 เท่า
โครงการเพิ่มเติมทั้ง 4 ดังกล่าว ได้แก่ 1.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่าลงทุนรวม 290,000 ล้านบาท (ภาครัฐ 17,768 ล้านบาท ภาคเอกชน 272,232 ล้านบาท) , 2.โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานสนามบินอู่ตะเภา มูลค่าลงทุนรวม 10,588 ล้านบาท (ภาครัฐ 6,333 ล้านบาท ภาคเอกชน 4,255 ล้านบาท), 3.โครงการท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 มูลค่าลงทุน 114,047 ล้านบาท และ 4.โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 มูลค่าลงทุน 55,400 ล้านบาท (รวมเงินลงทุนทั้งหมด ท่าเรือก๊าซ ท่าเรือสินค้าเหลว และพื้นที่คลังสินค้า)
ด้านโครงการระยะที่ 2: KGI วางแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเอทานอลจากกากน้ำตาลของโรงงานน้ำพองของ KGI เพิ่มอีก 200,000 ลิตรต่อวัน โดยคาดว่าต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000.00 ล้านบาท ในปี 2561-2562 ปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพื่อยื่นต่อสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย KGI มีแผนที่จะเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 และคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างและทดสอบการผลิตแล้วเสร็จ รวมถึงเปิดดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนธันวาคมปี 2562
ปา ร์ ติ ซาน พบ แมน ยู พี จี สล็อต เว็บ ตรง
Q4dKWBfO3R